สมาคมคมการค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล หรือ AITIA สรุปผลการหารือระดับสูง จีน-ไทย ฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ฯ เน้นเร่ง รถไฟจีน-ไทย และผลักดัน FTA จีน-อาเซียน 3.0 ภายในปี 2025 เพื่อเปิดโอกาสใหม่ด้าน การค้าและการลงทุน สำหรับสมาชิกในยุค เศรษฐกิจดิจิทัล
บทนำ: สู่ระดับสูงยิ่งขึ้นของความร่วมมือ
เนื่องในวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปี 2025 ความร่วมมือระดับทวิภาคีได้ก้าวเข้าสู่ “ปีทองแห่งมิตรภาพ” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้พบปะหารือกับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
นายหวัง อี้ กล่าวว่า จีนยินดีทำงานร่วมกับไทยเพื่อผลักดันการสร้าง “ประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน” สู่ระดับสูงยิ่งขึ้น พร้อมเรียกร้องให้มีการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาและบูรณาการผลประโยชน์ระหว่างสองฝ่ายให้สอดคล้องกันมากขึ้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวกและเป็นแผนที่นำทางที่ชัดเจนสำหรับ สมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียนสากล (AITIA) และสมาชิก
จีน-ไทย กำหนดทิศทางใหม่: จุดเน้น “เศรษฐกิจดิจิทัล” และการพัฒนาสีเขียว
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือคือการบ่มเพาะตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ การหารือนี้ได้กำหนดขอบเขตความร่วมมือในอนาคต โดยเน้นไปที่ 4 เสาหลักสำคัญ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจและ SME ไทย ที่ต้องการขยายตัวในตลาดจีน:
- เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy): การผนึกกำลังด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับประสิทธิภาพทางธุรกิจ
- ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI): การร่วมมือวิจัยและประยุกต์ใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรม
- E-Commerce ข้ามพรมแดน (Cross-border E-Commerce): การอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ
- การพัฒนาสีเขียวอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Development): การลงทุนในธุรกิจและนวัตกรรมที่ยั่งยืน
AITIA เล็งเห็นว่าการผลักดันในด้านเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนความพยายามในการสร้างความทันสมัยของทั้งสองประเทศ และเป็นโอกาสที่สมาชิก AITIA จะสามารถนำองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ ไปปรับใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐาน: โครงการ “รถไฟจีน-ไทย” เชื่อมโยง 3 ประเทศ
เพื่อส่งเสริมวิสัยทัศน์การพัฒนาการเชื่อมต่อระดับภูมิภาค นายหวัง อี้ ยังได้กระตุ้นให้มีการเร่งสร้าง ทางรถไฟจีน-ไทย เพื่อใช้ประโยชน์จากโครงการสำคัญนี้ในการส่งเสริมวิสัยทัศน์การพัฒนาการเชื่อมต่อของจีน ลาว และไทย (China-Laos-Thailand Connectivity)
โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดเส้นทางเศรษฐกิจใหม่ (Economic Corridor) ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มมหาศาลให้กับภาคการผลิต การท่องเที่ยว และ การค้าระหว่างประเทศ ของไทย
สู่ตลาดร่วมที่ใหญ่กว่า: การผลักดัน “FTA จีน-อาเซียน เวอร์ชัน 3.0”
ในระดับภูมิภาค จีนได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะลงนาม พิธีสารเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (China-ASEAN Free Trade Area – CAFTA) เวอร์ชัน 3.0 ภายในปี 2025 ซึ่งจะขยับขยายตลาดร่วมกันและส่งเสริมการค้าเสรี
AITIA สนับสนุนความพยายามในการปกป้องระบบการค้าเสรี และการต่อต้านนโยบายการจัดเก็บภาษีศุลกากรแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยเชื่อมั่นว่าการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจภายใต้ FTA 3.0 จะช่วยปกป้องผลประโยชน์ตามกฎหมายของสมาชิกและผู้ประกอบการไทยในเวทีโลกได้เป็นอย่างดี
บทสรุป: AITIA พร้อมนำสมาชิกคว้าโอกาส
การหารือระดับสูงครั้งนี้ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าความร่วมมือ การค้าและการลงทุนเอเชียนสากล โดยเฉพาะไทย-จีน จะมุ่งเน้นที่นวัตกรรม เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ สมาคม AITIA พร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลและจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้สมาชิกสามารถคว้าโอกาสจากนโยบายใหม่ ๆ เหล่านี้
สมาชิก AITIA จึงควรเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในภาค เศรษฐกิจดิจิทัล และ E-Commerce ข้ามพรมแดน ที่กำลังจะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด
ติดตามข่าวสารและโอกาสการลงทุนล่าสุดได้ที่ AITIA AITIA – Asian-International Trade and Investment Association
แหล่งที่มา: https://www.xinhuathai.com/china/533873_20250916?fbclid=IwY2xjawNb6jtleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVVEhMVTdmdGI1YTB3Y3RDAR62N57g9HGv008y2TwTF95T5RtSP1z7bf7EI3vJA25ZuYJZDkelV7iP7CF2eg_aem_uZz9Ne19YipQ9kWX0YVa7A
